News & Update

ผ่าอาณาจักร “บางจาก” หลังเทก”เอสโซ่”กวาดปั้มทั่วไทยกว่า 2 พันแห่ง

ผ่าอาณาจักร “บางจาก” หลังเข้าซื้อหุ้น “เอสโซ่” สัดส่วน 65.99% จาก ExxonMobil ผนึกสถานีน้ำมันค้าปลีกทั่วไทยกว่า 2 พันแห่ง ดีลซื้อขายคาดเสร็จปีนี้

บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BCP ดำเนินธุรกิจหลักด้วยการประกอบธุรกิจโรงกลั่นน้ำมันปิโตรเลียม ตั้งแต่การจัดหาน้ำมันดิบทั้งจากแหล่งต่างประเทศและภายในประเทศ เข้ากลั่นเป็นน้ำมันสำเร็จรูปที่ได้มาตรฐาน รวมถึงได้ขยายกิจการสู่ธุรกิจการค้าน้ำมัน ธุรกิจพลังงานไฟฟ้าสีเขียว ธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพ ธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติและพัฒนาธุรกิจใหม่ 

ล่าสุด “บางจาก” ประกาศซื้อหุ้นสามัญของบริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (เอสโซ่) จาก ExxonMobil Asia Holdings Pte. Ltd. (ExxonMobil) โดยเบื้องต้นเป็นการเข้าซื้อหุ้นในสัดส่วน 65.99% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของ เอสโซ่จาก ExxonMobil โดยมีมูลค่ากิจการ 55,500 ล้านบาท และมีกลไกการปรับราคาซื้อขายหุ้นตามที่ระบุในสัญญาซื้อขายหุ้น 

อย่างไรก็ดี หากอ้างอิงตามงบการเงินสอบทานในไตรมาส 3/2565 ของเอสโซ่ จะได้ราคาเบื้องต้นประมาณ 8.84 บาทต่อ 1 หุ้น (คาดใช้เงินเบื้องต้นราว 20,188 ล้านบาท จากสัดส่วนหุ้น 65.99% ที่ถือโดย ExxonMobil) โดยราคาสุดท้ายจะมีการปรับตามเงื่อนไขที่ตกลงไว้ และเตรียมพร้อมทำคำเสนอซื้อหุ้นที่เหลือทั้งหมด (tender offer) ของเอสโซ่ หลังจากการทำธุรกรรมกับ ExxonMobil เสร็จสิ้น

“ฐานเศรษฐกิจ” รวบรวมข้อมูลงบการเงิน “บางจาก” หรือ BCP  ณ สิ้นสุด 30 ก.ย. 2565 ที่ผ่านมา พบว่าบริษัทฯ มีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดอยู่ที่ 33,288 ล้านบาท อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E) อยู่ที่ 1.73 เท่า อัตราส่วนสภาพคล่อง (Current Ratio) อยู่ที่ 2.46 เท่า ปัจจุบันโรงกลั่นบางจากมีกำลังกลั่นเฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 120,000 บาร์เรลต่อวัน และมีจำนวนสถานีบริการน้ำมันอยู่ที่ 1,340 แห่ง และมีแผนเพิ่มอีก 80 แห่ง เป็น 1,420 แห่ง ภายในสิ้นปี 2566

ส่วนงบการเงิน ESSO มีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดอยู่ที่ 842.84 ล้านบาท อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E) อยู่ที่ 2.33 เท่า อัตราส่วนสภาพคล่อง (Current Ratio) อยู่ที่ 1.08 เท่า ปัจจุบันโรงกลั่นเอสโซ่ (ตั้งอยู่ที่ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี) และมีกำลังการกลั่นเฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 130,000 บาร์เรลต่อวัน มีสถานีบริการน้ำมันอยู่ที่ 800 แห่งทั่วประเทศ

โดยมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด หรือมาร์เก็ตแคปของ BCP ณ วันที่ 11 ม.ค. 2566 มีขนาดประมาณ  43,700 ล้านบาท ขณะที่ ESSO มีมาร์เก็ตแคปที่ขนาด 38,400  ล้านบาท

และหากการควบรวมกิจการเกิดขึ้น BCP จะมีส่วนแบ่งตลาดจำหน่ายน้ำมัน (มาร์เก็ตแชร์) เพิ่มขึ้นเป็น 25% แบ่งเป็นของบางจากเดิม 15% และเอสโซ่ที่ 10% รองจาก บมจ.ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR ที่มีมาร์เก็ตแชร์ที่ 35% สถานีบริการน้ำมันบางจากจะเพิ่มขึ้นมากกว่า 2 พันแห่ง แบ่งเป็น บางจาก 1,420 แห่งตามแผนในปี 66  และเอสโซ่อีก 800 แห่ง

Source : ฐานเศรษฐกิจ

Tags:

PJW-EA ร่วมพัฒนาเปลือกแบตเตอรี่ระบบหล่อเย็น มอเตอร์รถ EV คาดเริ่มผลิตพาณิชย์ปี 66

บมจ.ปัญจวัฒนาพลาสติก เซ็นบันทึกความร่วมมือกับ บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ “EA” เพื่อการวิจัยและพัฒนาเปลือกแบตเตอรี่ - ระบบหล่อเย็นสำหรับแบตเตอรี่ และระบบหล่อเย็นสำหรับมอเตอร์ขับเคลื่อน ด้วยพลาสติกคุณภาพสูงเตรียมผลิตแบบจำลองภายในปีนี้ และเริ่มผลิตพาณิชย์ในปี…

“ปตท.สผ.” พบก๊าซธรรมชาติเพิ่มโครงการมาเลเซีย เอสเค410บี

"ปตท.สผ." พบก๊าซธรรมชาติเพิ่มโครงการมาเลเซีย เอสเค410บี ชี้มีโอกาสพัฒนาร่วมกับแหล่งใกล้เคียง นอกชายฝั่งรัฐซาราวัก สร้างการเติบโตของบริษัทในระยะยาว นายมนตรี ลาวัลย์ชัยกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท…

กฟผ. เปิดตลาดจำหน่ายฮิวมิค วัตถุพลอยได้จากการทำเหมืองแม่เมาะ

กฟผ. เปิดตลาดจำหน่ายฮิวมิค วัตถุพลอยได้จากการทำเหมืองแม่เมาะ ส่งเสริมระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน สนับสนุนเกษตรกรเข้าถึงผลิตภัณฑ์ช่วยเพิ่มผลผลิต ลดค่าใช้จ่าย สร้างความยั่งยืนในภาคเกษตรกรรม นายบุญญนิตย์ วงศ์รักมิตร ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย…

Leave a Reply